วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560

สมาคมนักเรียนไทยในอังกฤษ

ชมรม/ สมาคมนักเรียนไทยในอังกฤษ
      ในปัจจุบันมีนักเรียนไทยทั้งในระดับประถมถึงระดับปริญญาเอกศึกษาอยู่ในประเทศสหราช อาณาจักรประมาณ 4,300 คน ดังนั้นกลุ่มนักเรียนไทยจึงได้รวมตัวกันเป็นชมรมนักเรียนไทยใน 37 มหาวิทยาลัย โดยมีสามัคคีสมาคมเป็นแกนกลางในการประสานงาน  
     4.1  สามัคคีสมาคม  จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2444 โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงศึกษาอยู่ในสหราชอาณาจักร  จึงถือได้ว่าเป็นสมาคมของนักเรียนไทยในต่างประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นที่ยอมรับของนักเรียนไทยในยุโรป ในปัจจุบันกลุ่มนักเรียนไทยในสหราชอาณาจักรได้รวมตัวกันอยู่ในสามัคคีสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์  โดยสามัคคีสมาคมมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมความสามัคคีระหว่างชมรมนักเรียนไทยในสหราชอาณาจักรด้วยการจัดการแข่งขันกีฬา”สามัคคีเกมส์” ระหว่างนักเรียนไทยในสหราชอาณาจักร (มีนักเรียนเข้าร่วมกว่า 1 พันคน) และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนไทยในภาคพื้นยุโรป นอกจากนี้ ยังได้จัดสัมมนาความรู้ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมที่เกี่ยวกับประเทศไทย ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 1,000 คน  โดยมีสภานายกและคณะกรรมการบริหารที่มาจากการเลือกตั้งโดยผู้แทนนักเรียนไทยในสหราชอาณาจักรจากทุกมหาวิทยาลัย (หมายเลขโทรศัพท์ 0207-584-4538)
    4.2  ชมรมนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยต่างๆ ใน ส.อ. จำนวน 37 มหาวิทยาลัย อาทิ มหาวิทยาลัย Cambridge, Coventry, Edinburgh, Essex, Leeds, Liverpool, London, Manchester, Newcastle, Nottingham, Oxford, Sheffield, Southamton มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง และเพื่อเผยแพร่ศิลปะ วัฒนธรรม การค้า การท่องเที่ยวไทยให้นักเรียนต่างชาติที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันได้รับทราบ

เพิ่มเติม

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/clock/

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/recommended-tourist-attractions-in-london/

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/top-london-attractions/

http://www.studysqr.com/วีซ่า/ielts-for-ukvi/ 


Study Square Co.,Ltd. 5 Therd Rachan 1 Lane, Therd Rachan Rd, Srikan, Donmuang, Bangkok, 10210 ThailandTell : 089-1261024, 02-9291231 (พี่กฤต)Email :studysquares@hotmail.com

การปกครองสงฆ์ในอังกฤษ

การปกครองสงฆ์ในอังกฤษ
 3.1  เมื่อวันที่ 1 มกราคม  2549 ได้มีการจัดตั้งองค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักรขึ้น โดยมีพระราชภาวนาวิมล เจ้าอาวาสวัดพุทธปทีป หัวหน้าคณะพระธรรมทูตสายประเทศอังกฤษเป็นประธาน มีวัตถุประสงค์เพื่อวางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักร ให้อยู่ในวินัยสงฆ์อย่างเคร่งครัด และเพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่พระพุทธศานาให้มีความเป็นระบบยิ่งขึ้น โดยแบ่งการปกครองพระธรรมทูตไทยฯ เป็น 4 เขต คือ อังกฤษ  สก๊อตแลนด์  เวลส์  และไอร์แลนด์เหนือ  
 3.2  ตามข้อบังคับของคณะพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2548 กำหนดให้พระภิกษุที่จะมาปฏิบัติศาสนกิจในสหราชอาณาจักรจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะ
กรรมการบริหารขององค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักรก่อน โดยพิจารณาเป็นคราวๆ ไป เมื่อวัดใดวัดหนึ่งเสนอ  จึงจะสามารถเดินทางมาปฏิบัติศาสนากิจในสหราชอาณาจักรได้ พร้อมทั้งกำหนดกฎเกณฑ์การเสนอขอเกียรติบัตร ขอสมณศักดิ์หรือขอเลื่อนสมณศักดิ์
      3.3   กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัด
            3.3.1  เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา
            3.3.2  เป็นสถานที่จัดงานประเพณีต่างๆ
            3.3.3  เป็นสถานที่เปิดสอนธรรมะ/ วิปัสสนา แก่คนทั่วไป 
            3.3.4  เปิดการสอนภาษาไทยให้แก่เยาวชนไทย (มีเฉพาะที่วัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน ภายใต้การสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตฯ จัดสอนภาษาไทยที่โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์)
      3.4   กลุ่มยุวพุทธิกะแห่งสหราชอาณาจักร เป็นการรวมตัวของคนไทยในสหราชอาณาจักร เพื่อช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรมงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาของคณะพระธรรมทูตให้กว้างไกลออกไป โดยได้เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2507 
(หมายเลขโทรศัพท์ 02089461357) โดยวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งมี ดังนี้
        ก.  เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของคณะพระธรรมทูต
วัดพุทธปทีป
        ข. เพื่อสนับสนุนส่งเสริมศิลปะ รักษาประเพณีและเผยแพร่วัฒนธรรมไทย
        ค. เพื่อประสานงานระหว่างวัดพุทธปทีปกับประชาชนไทยในสหราชอาณาจักร
        ง.  เพื่อมิตรสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยและชาวพุทธทั้งหลายในสหราชอาณาจักร
        จ.  เพื่อเผยแพร่สารคดีธรรมทางพระพุทธศาสนา
         นอกจากนี้ กลุ่มยุวพุทธิกะแห่งสหราชอาณาจักรยังมีกิจกรรมอื่นๆอีก  ได้แก่
การจัดทำหนังสือยุวพุทธิกะสาร เผยแพร่พระพุทธศาสนา  ร่วมกับวัดพุทธปทีปจัดงานในวันสำคัญต่างๆในพระพุทธศาสนา และงานประเพณีของไทย ตลอดจนซ่อมแซมทำนุบำรุงวัดพุทธปทีป เป็นต้น

เพิ่มเติม

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/readdavil/ 

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/stone/

 http://www.studysqr.com/อังกฤษ/westmin/

 http://www.studysqr.com/อังกฤษ/eye/

 http://www.studysqr.com/อังกฤษ/buck/

Study Square Co.,Ltd. 5 Therd Rachan 1 Lane, Therd Rachan Rd, Srikan, Donmuang, Bangkok, 10210 ThailandTell : 089-1261024, 02-9291231 (พี่กฤต)Email :studysquares@hotmail.com






การรวมตัวของคนไทยในสหราชอาณาจักร

การรวมตัวของคนไทยในสหราชอาณาจักร  
        คนไทยส่วนใหญ่นิยมรวมตัวกันในโอกาสวันสำคัญทางศาสนาที่วัด/สำนักสงฆ์ไทยในสหราชอาณาจักรซึ่งมีอยู่ 14  แห่ง มีพระธรรมทูตไทยจำนวน 40 รูปปฏิบัติศาสนกิจเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสหราชอาณาจักร โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
   2.1   รายนามวัดไทยและวัดต่างชาติที่พระสงฆ์ไทยไปปฏิบัติศาสนกิจในประเทศสหราชอาณาจักร
            2.1.1   วัดพุทธปทีป (วัดไทย) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2508 โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ที่ผ่านมาเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน หลายท่าน อาทิ หม่อมเจ้าเพลิงนภดล รพีพัฒน์ นายสุนทร หงส์ลดารมภ์ นายกนต์ธีร์ ศุภมงคล นายแผน วรรณเมธี เป็นต้น ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนและประสานกับหน่วยงานของรัฐบาลไทยและรัฐบาลอังกฤษ จนการก่อสร้างประสบความสำเร็จ “วัดพุทธปทีป” จึงถือได้ว่าเป็นวัดไทยที่แท้จริงและเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีพระอุโบสถซึ่งสร้างตามสถาปัตยกรรมไทยที่สมบูรณ์แบบ โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ปัจจุบันมีพระราชภาวนาวิมลเป็นเจ้าอาวาส และเป็นหัวหน้าคณะพระธรรมทูตสายประเทศอังกฤษ มีพระไทย    9 รูป   โดยสถานเอกอัครราชทูตฯทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลด้านบัญชีการเงินและการดำเนินงานของพระธรรมทูต หากประสงค์จะขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อวัดพุทธปทีปได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0208-946-1357 หมายเลขโทรสาร 0208-944-5788
           2.1.2    วัดอมราวดี (วัดพุทธชาวต่างชาติ) เมือง Hertfordshire มีพระอาจารย์สุเมโธ ชาวอเมริกัน สายวัดป่านานาชาติ และเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา เป็นเจ้าอาวาส ชำนาญด้านการนั่งสมาธิ วัดอมราวดีตั้งขึ้นกว่า 20 ปีมาแล้ว ในปัจจุบันมีพระภิกษุ จำนวน 16 รูป (พระภิกษุไทย 2 รูป, พระต่างชาติ 7 รูป) สามเณร 3 รูป แม่ชี 14 รูป (หมายเลขโทรศัพท์ 01442842455)
           2.1.3    วัดสังฆทาน เมือง Birmingham (วัดไทย) มีพระชาญ จนทวณโณ เป็นเจ้าอาวาส มีพระไทย 6 รูป (หมายเลขโทรศัพท์ 0121-551-5729 หมายเลขโทรสาร 0121-551-2213)
           2.1.4   วัดมหาธาตุ เมือง Birmingham (วัดไทย) มีพระปัญญาพุทธิวิเทศ (ดร.พระมหาเหลา ปัญญาสิริ) เป็นเจ้าอาวาส มีพระไทย 6 รูป สามเณร 1รูป(หมายเลขโทรศัพท์ 01543472315 หมายเลขโทรสาร 01543472877 
           2.1.5   วัดรัตนคีรี เมือง Northumberland  (วัดพุทธชาวต่างชาติ) มีพระอาจารย์   มุนินโด เป็นเจ้าอาวาส มีพระไทย 1 รูป พระต่างชาติ 3 รูป สามเณรต่างชาติ 2 รูป (หมายเลขโทรศัพท์ 01661881612 หมายเลขโทรสาร 01661881019)
           2.1.6   วัดพุทธวิหาร วูลเวอร์แฮมตัน กรุงลอนดอน  (วัดพุทธชาวต่างชาติ) มีพระไทย 1 รูป  (หมายเลขโทรศัพท์ 01902715094)
           2.1.7   วัดเจริญภาวนา กรุงลอนดอน ((วัดไทย สาขาวัดธรรมกาย) มีพระไวโรจน์      วิโรจโน เป็นเจ้าอาวาส มีพระไทย 4 รูป (หมายเลขโทรศัพท์ 01483475757)
           2.1.8    วัดเจริญภาวนา เมืองแมนเชสเตอร์ (วัดไทย สาขาวัดธรรมกาย) มีพระวุฑฒ์        สุวุฑฒิโก เป็นเจ้าอาวาส มีพระไทย 3 รูป (หมายเลขโทรศัพท์ 01617361633 หมายเลขโทรสาร 01617365747)
           2.1.9    วัดธรรมปทีป กรุงเอดินเบอระ สก๊อตแลนด์ (วัดไทย สาขาของวัดพุทธปทีป)   มีพระมหาวิสิษฐ์ ปญญาวฑฒโน เป็นเจ้าอาวาส มีพระไทย 3 รูป (หมายเลขโทรศัพท์ 01314431010)
           2.1.10   วัดพุทธาราม กรุงลอนดอน (วัดไทย) มีพระมหาสมชาย จิตตคุตโต เป็นเจ้าอาวาส มีพระไทย 4 รูป (หมายเลขโทรศัพท์ 02085342138 หมายเลขโทรสาร 02085342094)
           2.1.11   วัดอีสท์ลอนดอน บุดดิสท์ คัลเจอรัล เซ็นเตอร์ (วัดพุทธของชาวศรีลังกา) มีพระไทย  1 รูป

เพิ่มเติม
http://www.studysqr.com/อังกฤษ/readdavil/ 

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/pool/

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/trafalgar/

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/harrods/

http://www.studysqr.com/อังกฤษ/tem/

Study Square Co.,Ltd. 5 Therd Rachan 1 Lane, Therd Rachan Rd, Srikan, Donmuang, Bangkok, 10210 ThailandTell : 089-1261024, 02-9291231 (พี่กฤต)Email :studysquares@hotmail.com


คนไทยในอังกฤษ

ชาวไทยในสหราชอาณาจักร
     1.1 จากสถิติคนไทยที่ติดต่องานด้านกงสุลที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน คาดว่า มีคนไทยอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรจำนวน 36,000 คน โดยคนไทยในสหราชอาณาจักรได้รวมตัวกันเป็นชมรม, สมาคม ต่างๆ ถึง 58 แห่ง ซึ่งนับได้ว่ามีจำนวนมากที่สุดในทวีปยุโรป 
     1.2 คนไทยส่วนใหญ่ประมาณ 20,000 คน เป็นแรงงานทำงานอยู่ที่ร้านอาหารไทยซึ่งมีอยู่มากถึง   1,000 ร้านทั่วสหราชอาณาจักร  โดยกว่าครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 600 ร้านตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน  ดังนั้น แรงงานไทยจึงมีลู่ทางเข้าไปทำงานในสาขาบริการจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่ออาหารไทยกำลังเป็นที่นิยมจากผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น  คาดว่าในแต่ละปีแรงงานไทยสามารถส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวในประเทศไทยได้ประมาณ 100,000 บาท/ คน/ ปี หรือกว่า 2 พันล้านบาท/ ปี 
     1.3 คนไทยอีกส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนทั้งในระดับประถมถึงระดับปริญญาเอกจำนวนประมาณ 4,300 คน ส่วนที่เหลือประกอบอาชีพส่วนตัวและอยู่ในภาคธุรกิจต่างๆ  นอกจากนี้ ยังมีคนไทยที่สมรสกับคนบริติชและมีบุตรธิดาที่ถือสองสัญชาติจำนวนมาก

เพิ่มเติม

 http://www.studysqr.com/เรียนต่อ/เรียนต่ออังกฤษ/เรียนต่อลอนดอน/west-london-college/

http://www.studysqr.com/เรียนต่อ/เรียนต่ออังกฤษ/เรียนต่อลอนดอน/oxford-house-college/ 

 http://www.studysqr.com/เรียนต่อ/เรียนต่ออังกฤษ/เรียนต่อลอนดอน/city-london-college/


Study Square Co.,Ltd. 5 Therd Rachan 1 Lane, Therd Rachan Rd, Srikan, Donmuang, Bangkok, 10210 ThailandTell : 089-1261024, 02-9291231 (พี่กฤต)Email :studysquares@hotmail.com

วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560

ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา

ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา การศึกษาในสหรัฐอเมริกาแตละมลรัฐจะควบคุมคุณภาพการเรียนการสอน และ วางแผนการศึกษาของตนเองโดยไมขึ้นกับรัฐบาลกลาง ทุกมลรัฐจะมีหนวยงานการศึกษา คลายกระทรวงศึกษาธิการ คอยกําหนดมาตรฐานตาง ๆ แนะนําเงินงบประมาณอุดหนุน ใหโรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยจากเงินภาษีที่เก็บไดจากประชาชน และสมาคม ตาง ๆ ในแตละมลรัฐ สําหรับการศึกษาภาคบังคับ นักเรียนอเมริกันทุกคนจะเรียนฟรีไมวา จะอยูที่รัฐใด จนจบชั้นนมัธยมศึกษา หรือ Grade 12
สําหรับนักเรียนจากประเทศอื่นที่ ตองการเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาสหรัฐอเมริกา จะสมัครเขาเรียนไดใน โรงเรียนเอกชนเทานั้น เพราะสหรัฐอเมริกาจะไมออกวีซาใหนักเรียนตางชาติที่ได 1-20 จากโรงเรียน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จากโรงเรียนของรัฐท ี่ เรียกวา Public School การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยจะมีขอแตกตาง กลาวคือถานักเรียนที่มีถิ่นฐานใน มลรัฐหนึ่งจะขามมาศึกษาตอในระดับมหาวิทยาลัยในอีกมลรัฐหนึ่ง จะตองเสียคาเลาเรียน แพงขึ้น ที่เรียกวา Out of States Tuition และถานักศึกษามาจากประเทศอื่ นจะตองเสียคา เลาเรียนมากกวาข ึ้นไปอีก ระดับการศึกษาของสหรัฐอเมริกามีหลายแบบแตที่นิยมคือ แบบ 6 – 3 – 3 และ 6 – 6 และพยายามจะใชแบบเดียวกันท ั่วประเทศคือ แบบ 6 –3 – 3 หรือ 6 – 2 – 4


  • ระดับอนุบาล (Kindergarten / Preschool Education) ชีวิตการเรียนของเด็กอเมริกัน เร ิ่ มตนดวยโรงเรียนเตรียมอนุบาล หรือโรงเรียน อนุบาลต ั้ งแตอายุประมาณ 3 ขวบ ระดับประถมศึกษา
  • (Elementary Schools) เด็กอเมริกันจะเขาเร ิ่ มเรียนอยางจริงจังเม ื่ ออายุ 6 ขวบบริบูรณคือเขาเรียนในชั้น Grade 1 ซึ่งบานเราก็นับวาเปน ประถมศึกษาปที่ 1 ระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา จะ 182 ระดับมัธยมศึกษา 
  • (Junior High Schools / High Schools) ชวงท ี่ 2 คือ Grade 7 และ Grade 8 หรือระดับมัธยมตน (Junior High Schools) และชวงท ี่ 3 คือ Grade 9 ถึง Grade 12 เปนระดับมัธยมปลาย (Senior High Schools) โดยทั่วไปสําหรับเด็กท ี่ เขาเร ิ่ มเรียนตามปกติและเรียนตอเน ื่องไปโดยไมขาดตอน จะสําเร็จ การศึกษา Grade 12 เม ื่ ออายุประมาณ 18 ปซึ่งนับวาสําเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย นักเรียนในระดับนี้ตองเรียนวิชาพ ื้ นฐาน คือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตรวิทยาศาสตร สังคมศึกษา และอาจตองเรียนภาษาตางประเทศหรือพลศึกษาดวย นักศึกษาตางชาติที่ เขาไปเรียนตอในระดับมัธยมศึกษาในสหรัฐอเมริกามีจํานวนไมมากนัก และสวนใหญจะ เขาเรียนในโรงเรียนประจําของเอกชน หรือ Boarding School เน ื่องจากโรงเรียนรัฐบาล สวนใหญไมสามารถจัดหาหอพักใหไดโดยทั่วไปนักเรียนไทยสวนใหญที่ไปเรียนตอใน ระดับนี้มักสําเร็จการศึกษาช ั้ นมัธยมศึกษาปที่ 3 แลว และไปเขาเรียนตอ Grade 10 ใน สหรัฐอเมริกา 
  • ระดับอุดมศึกษา (Higher Education) สถาบันระดับอุดมศึกษาในสหรัฐอเมริกามีมากมายกวา 3,000 แหง ทั้งของมลรัฐ และเอกชน โดยสถาบันในระดับอุดมศึกษา จะแยกออกเปน 4 ประเภท ดังน ี้ 1. วิทยาลัยแบบ 2 ปหรือวิทยาลัยชุมชน 
  • (Junior Colleges และ Community Colleges) นักศึกษาท ี่ เรียนในวิทยาลัย Junior และ Community Colleges สามารถเลือกเรียนไดใน 2 หลักสูตร คือ 1.1 Transfer Track เปนหลักสูตรท ี่เปนวิชาพ ื้ นฐาน 2 ปแรกของการศึกษา ระดับปริญญาตรีโดยนักศึกษาจะลงเรียนรายวิชาบังคับ (General Education Requirements) เปนเวลา 2 ปจากน ั้ นนักศึกษาสามารถโอนหนวยกิต (Transfer) ไป มหาวิทยาลัยท ั้ งของมลรัฐและเอกชนเพ ื่ อศึกษาตอในระดับป 3 โดยที่ เกรดเฉล ี่ ยท ี่ นักศึกษาทําไดในระหวาง 2 ปนี้จะเปนตัวกําหนดวานักศึกษาจะไดรับการตอบรับเขา มหาวิทยาลัยท ี่ อยูในอันดับยากงายเพียงใด 1.2 Terminal / Vocational Track เปนหลักสูตรอนุปริญญาสายวิชาชีพ หลังจาก 2 ปแลวนักศึกษาจะไดรับวุฒิอนุปริญญา (Associate Degree) ทางสาขาวิชาท ี่ เลือก อาทิเชน คอมพิวเตอร เลขานุการ เขียนแบบ เปนตน 2. วิทยาลัย (Colleges) เปนสถาบันระดับอุดมศึกษาหลักสูตร 4 ปเปดสอนใน สาขา วิชาตาง ๆ วิทยาลัยหลายแหงเปดสอนถึงระดับปริญญาโท วุฒิบัตรระดับปริญญา 183 3. มหาวิทยาลัย (University) เปนสถาบันระดับอุดมศึกษาท ี่เปดสอนระดับ ปริญญาตรีขึ้นไป มหาวิทยาลัยสวนใหญจะเปดสอนจนถึงระดับปริญญาโทและปริญญา เอกในสาขาตาง ๆ 4. สถาบันเทคโนโลยี (Institute of Technology) เปนสถาบันท ี่เปดสอนต ั้ งแต ระดับปริญญาตรีและอาจเปดสอนจนถึงระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สถาบัน เทคโนโลยีสวนใหญจะมุงเนน ที่การสอนในสาขาวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เง ื่อนไขการรับเขาเรียน มัธยมศึกษา นักเรียนจากตางประเทศสามารถศึกษาตอในระดับมัธยมในโรงเรียนของเอกชน เทานั้น ไมสามารถเขาเรียนในสถาบันของรัฐบาลได เง ื่อนไขอื่น ๆ เชนเกรดเฉล ี่ ยและ คะแนน TOEFL แตกตางออกไปตามสถาบัน วิทยาลัย วิทยาลัยสวนใหญตองการนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 2.0 ขึ้นไป และคะแนน TOEFL 480 – 500 ขึ้นไป มหาวิทยาลัย สําหรับปริญญาตรี สถาบันสวนใหญตองการนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ย 2.5 ขึ้นไป และคะแนน TOEFL 500 ขึ้นไป มหาวิทยาลัย สําหรับปริญญาโทและเอก เกรดเฉลี่ย 3.0 ขึ้นไป และคะแนน TOEFL ไมต่ํากวา 500 นักศึกษาท ี่ จะสมัคร ในโปรแกรม MBA สวนใหญจะตองใชคะแนน GMAT ซึ่งจะนํามาคํานวณกับเกรดเฉลี่ย ปริญญาตรีสวนนักศึกษาท ี่ สมัครปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาอื่น ๆ สวนใหญ จะตองสอบ GRE (Graduate Record Examination) 

ระบบการศึกษาประเทศออสเตรเลีย

ระบบการศึกษาประเทศออสเตรเลีย

ประเทศออสเตรเลียมีระบบการศึกษาที่แบ่งออกเป็นดังนี้ ระดับอนุบาลศึกษา (Kindergarten หรือ Pre-School) การศึกษาภาคไม่บังคับ เริ่มรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 3-5 ขวบ โดยเน้น การเตรียมความพร้อมให้เด็กมีพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา ทักษะ และ สังคม โดยไม่เร่งหรือเน้นในเชิงวิชาการมากนัก ระดับประถมศึกษา

(Elementary School) การเรียนการสอนในระดับประถมศึกษาจะจัดชั้นตามอายุ โดยมีอาจารย์ ประจําชั้นที่เป็นผู้สอนวิชาพื้นฐานต่างๆ ทั้งหมด ส่วนวิชาหลักในระดับนี้คือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วรรณคดีอังกฤษ และวิชาทางศิลปะ การ วัดผลจะอาศัยการประเมินจากครูผู้สอนเป็นหลัก โรงเรียนประถมศึกษาของรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนแบบสหศึกษา แบบไปกลับ ส่วนโรงเรียนเอกชนมีทั้งแบบสหศึกษาและแยกหญิงชาย ทั้ง แบบประจําและไปกลับ ระดับมัธยมศึกษา

(Secondary - High School) การศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ มัธยมศึกษาตอนต้น (Year 7-10) เป็นการศึกษาภาคบังคับ จนถึง Year 10 โดยทั่วไปนักเรียนจะมีอายุ 15 ปีจะเรียนวิชาหลักๆ คือ วรรณคดี อังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พละศึกษา โรงเรียนส่วนใหญ่เปิด สอนวิชาเลือกต่างๆ ให้นักเรียนเลือกเรียนตามความถนัด เช่น คอมพิวเตอร์ภาษาต่างประเทศ ดนตรีศิลปะ ประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์ สังคมศึกษา ธุรกิจ ซึ่งวิชาเหล่านี้อาจถูกกําหนดให้เป็นวิชาบังคับเพื่อ เตรียมนักเรียนเข้าสู่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเรียนต่อสายอาชีพ มัธยมศึกษาตอนปลาย (Year 11-12) นักเรียนที่ต้องการเรียนต่อใน ระดับมหาวิทยาลัยมักเลือกเรียนต่อ Year 11-12 เพื่อเตรียมสอบ ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษา ในแต่ละรัฐจะมีประกาศนียบัตรภายใต้ ระบบการศึกษาของรัฐนั้นๆ และเนื่องจากประเทศออสเตรเลียไม่มีระบบ การสอบเข้า การเข้ามหาวิทยาลัยจึงกําหนดจากระดับคะแนนสะสม ที่นักเรียนได้จากการเรียนใน 2 ปีสุดท้าย โดยพิจารณาจากคะแนน UAI: University Assessment Index ซึ่งเป็นระบบการคิดคะแนนที่ทุกรัฐใช้เป็น มาตรฐาน

ระดับอุดมศึกษา (Higher Education) มหาวิทยาลัย (University) รัฐบาลออสเตรเลียให้ความสําคัญในการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็น อย่างมาก เมื่อเทียบกับประชากรเพียง 20 ล้านคน ปัจจุบันมี มหาวิทยาลัยทั้งหมด 39 แห่งทั่วประเทศ มีนักศึกษาที่เรียนเต็มเวลา ครึ่งเวลา และเรียนทางไกลอยู่ทั้งหมดกว่า 600,000 คน และมีนักศึกษา ต่างชาติที่กําลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษากว่า 100,000 คนจากทั่วโลก มหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลียส่วนใหญ่ได้รับเงินสนับสนุนจาก รัฐบาล ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยของเอกชนเพียง 3 แห่ง คือ Bond รัฐบาล ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยของเอกชนเพียง 3 แห่ง คือ Bond University, University of Notre Dame และ Southern Cross University ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียเป็นที่ยอมรับในระดับสากล บาง แห่งติดอันดับสุดยอด 50 มหาวิทยาลัยในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ซึ่ง สํารวจโดยนิตยสาร Asia week นอกจากนี้ออสเตรเลียยังได้รับการ ยกย่องจากองค์กรสําคัญระดับโลก เช่น the World Bank และ Asia Development Bank ว่าเป็นหนึ่งในผู้นําด้านการศึกษาที่ได้มาตรฐานโลก สถาบันเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่องของรัฐบาล (Institute of Technical and Further Education) สถาบันเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่องของรัฐบาล หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อ ว่า "เทฟ" (TAFE) เป็นระบบการศึกษาที่เน้นการฝึกอบรมด้านวิชาชีพ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการฝึกทักษะปฏิบัติที่จําเป็นต่างๆ ในวิชาชีพ ที่สําคัญๆ เช่น อุตสาหกรรม ก่อสร้าง รถยนต์ พาณิชย์ ช่างเทคนิคทุก ประเภท และงานบริการ การท่องเที่ยว การโรงแรม รวมทั้งศิลปะ และ ความชํานาญในทุกสายอาชีพ โดยมีเป้าหมายในการป้อนบุคลากรที่มี ทักษะ ความรู้ความชํานาญ และความสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงาน การ เรียนในสถาบัน TAFE จึงเน้นภาคปฏิบัติมากกว่าทฤษฎีและมีการ ประสานความร่วมมือระหว่างสถาบัน TAFE และหน่วยงานภาครัฐบาล และภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การฝึกฝนวิชาชีพต่างๆ ที่สอดคล้อง กับความต้องการ และการเปลี่ยนแปลงกับตลาดแรงงานอย่างแท้จริง วิทยาลัยเอกชน (Private College) วิทยาลัยเอกชนที่เปิดสอนหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องและวิชาชีพ จัดตั้ง อยู่ทั่วไปตามเมืองใหญ่ทุกเมือง โดยจัดหลักสูตรใกล้เคียงกับสถาบัน TAFE ของรัฐบาล แต่จะเน้นสาขาวิชาชีพด้านธุรกิจ และสาขาที่ตลาด แรงงานมีความต้องการมาก เช่น บัญชี การตลาด การจัดการ คอมพิวเตอร์ วิทยาการสารสนเทศ เลขานุการ การท่องเที่ยว การ โรงแรม ออกแบบ เสริมสวย เป็นต้น วิทยาลัยเอกชนที่เปิดรับนักศึกษาต่างชาติจะต้องจดทะเบียนและอยู่ภาย ใต้การควบคุมดูแลด้านมาตรฐานและคุณภาพการเรียนการสอนจาก รัฐบาลและหน่วยงานการศึกษาที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ วิทยาลัยเอกชน หลายแห่งยังจัดสอนหลักสูตรเพื่อการศึกษาต่อเนื่องในระดับปริญญาตรี ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกสําหรับผู้ที่ต้องการ คุณวุฒิในวิทยาลัยเอกชน และศึกษาต่อเนื่องขึ้นไปเรียนถึงในระดับ ปริญญาตรี

สถาบันภาษา (English Language Intensive Course for Oversea Students: ELICOS) หลักสูตรภาษาอังกฤษของออสเตรเลียนั้น นับว่าเป็นหลักสูตรที่มี คุณภาพและดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง สถาบันภาษา หรือที่เรียกย่อๆ ว่าสถาบัน ELICOS เป็นสถาบันที่ได้จดทะเบียนและได้รับการรับรองเป็นที่เรียบร้อย แล้วเนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกของสมาคมหรือองค์กรเพื่อการสอนภาษา อังกฤษ การเรียนการสอนจึงดําเนินตามมาตรฐานและกฏเกณฑ์ของสมาคม หรือองค์กรนั้นๆ ในประเทศออสเตรเลีย สถาบันเหล่านี้จะเปิดสอนทั้งใน วิทยาลัย สถาบันอาชีวศึกษา วิทยาลัยเอกชน และบางแห่งก็เป็นส่วนหนึ่งของ สถาบันระดับอุดมศึกษาของรัฐบาล เช่น มหาวิทยาลัย และโดยส่วนใหญ่แล้ว ก่อนจะเริ่มเรียนจะมีการจัดสอบวัดระดับสําหรับนักศึกษาต่างชาติ (Placement Test) เพื่อจัดระดับ ชั้นเรียนที่เหมาะสมกับนักศึกษา สถาบัน ELICOS เปิดสอนในหลักสูตรฝึกอบรมด้านภาษาอังกฤษในทุกระดับ และมีความหลากหลายตามวัตถุประสงค์ โดยทั่วไปแล้วจะเปิดสอนในหลักสูตร แบบเต็มเวลา (Full-time) โดยกําหนดเวลาอย่างน้อย 20 -25ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แบบเต็มเวลา (Full-time) โดยกําหนดเวลาอย่างน้อย 20 -25ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 2-48 สัปดาห์และแบบครึ่งวัน (Part-time) เรียนเพียง 12-15 ชั่วโมงต่อ สัปดาห์ หลักสูตรเหล่านี้จะแบ่งเป็นระดับต่างๆ ตามระดับความสามารถด้าน ภาษาของนักศึกษาดังนี้ ระดับเริ่มต้น ระดับกลางขั้นต้น ระดับกลาง ระดับกลางขั้นสูง ระดับสูง หลักสูตรภาษาอังกฤษ จัดแบ่งตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังนี้ ภาษาอังกฤษทั่วไป (General English) เป็นหลักสูตรที่เหมาะสําหรับ บุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในทุกๆด้าน เช่น การพูด การเขียน การฟัง การอ่าน และรวมถึงไวยากรณ์ต่างๆ ภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว/สันทนาการ (Study Tour/Holiday) เป็น หลักสูตรภาษาอังกฤษที่มีความยืดหยุ่นอย่างมาก และมีระยะเวลาเรียน เพียงสั้นๆ เป็นการเรียนภาษาอังกฤษที่ควบคู่ไปพร้อมๆกับการท่องเที่ยว หรือทํากิจกรรมสันทนาการอื่นๆ ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ (Business English) เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการใช้ ภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการติดต่อธุรกิจ เนื้อหาจะเน้นเกี่ยวกับการเขียน รายงาน Report การเขียนเสนอโครงงาน การเขียนจดหมายโต้ตอบ ทางธุรกิจ การนําเสนองานในที่ประชุม หลักสูตรนี้เหมาะสําหรับ นักศึกษาที่เรียนในสาขาธุรกิจ วิทยาศาสตร์และคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษเพื่อเข้าศึกษาตรงในมหาวิทยาลัย หรือ TAFE (Direct Entry English Program) เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษสําหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อใน ระดับมหาวิทยาลัย โดยไม่ต้องสอบ IELTS หรือ TOEFL อีก ซึ่ง หลักสูตรนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การเขียนและการอ่านเชิงวิชาการ การ จดบันทึกย่อ การทํางานวิจัย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเนื้อหา ที่นักศึกษาจะต้องใช้ในการศึกษาต่อ ผู้ที่จะเข้าเรียนจะต้องมีผลภาษา อังกฤษ (IELTS / TOEFL) หรือผ่านการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ กับทางสถาบันโดยตรง และเมื่อนักศึกษาสําเร็จการศึกษาในหลักสูตร นี้และมีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ที่กําหนดไว้ก็จะสามารถเข้าศึกษาต่อ ในมหาวิทยาลัยที่สถาบันนั้นๆมีข้อตกลงอยู่ แต่ละสถาบันจะมีชื่อ หลักสูตรที่แตกต่างกัน อาทิเช่น Direct Entry English Program, Bridging Program, English for Tertiary Program/TAFE ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ/เพื่อศึกษาต่อ (English for Academic Purpose) เป็นหลักสูตรที่เหมาะสําหรับผู้ที่ต้องการเสริมทักษะภาษา อังกฤษในด้าน การเขียนและการอ่านเชิงวิชาการ การทําวิจัย สัมมนา และการมีส่วนร่วมในการเรียนกลุ่มย่อย เพื่อนําไปใช้ในการศึกษาต่อใน ทุกระดับ เช่น ระดับมัธยมศึกษา สถาบันอาชีวศึกษา และระดับ อุดมศึกษา โดยส่วนมากผู้ที่จะเข้าเรียนในหลักสูตรนี้จะต้องมีความ สามารถด้านภาษาอังกฤษในระดับกลางถึงสูง ในบางสถาบันใช้หลักสูตร นี้เป็นเงื่อนไขในการเข้าศึกษาโดยตรงในหลักสูตรหลัก

วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560

ประวัติอเมริกา และการศึกษาอเมริกา!!!

ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ อเมริกา เป็นประเทศที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาลโดยมีพื้นที่ถึง 9.9 ล้านตาราง กิโลเมตร(เทียบเท่ากับ 18 เท่าของพื้นที่ประเทศไทย) ส่วนกว้างของอเมริกาจากฝั่งมหาสมุทร แปซิฟิกทางด้านตะวันตกไปจนจรดมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันออก มีความกว้างถึง 4,500 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง ทิศเหนือมีอาณาเขตติดกับ ประเทศ แคนาดา ทิศใต้ติดกับประเทศเม็กซิโกและอ่าวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือ ประกอบไปด้วยรัฐ50 รัฐ โดยมีมลรัฐ Alaska อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดาและมีมลรัฐฮาวายอยู่ทาง ตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก มีเนื้อที่ประมาณ 9,631,418 ตารางกิโลเมตรเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซียและแคนาดา

แหล่งอ้างอิง
อเมริกา : http://www.studysqr.com/อเมริกา/


การศึกษาอเมริกา
การศึกษาในสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ โดยหน่วยงานภาครัฐที่มีการควบคุม และเงินทุนที่มาจากสามระดับรัฐบาลกลาง , รัฐและท้องถิ่น ซึ่งการศึกษาภาคบังคับ สำหรับทุกเพศทุกวัย การศึกษาภาคบังคับแตกต่างกันไปโดยรัฐ โดยทุกรัฐเริ่มต้นจากวัย 5-8 และสิ้นสุดจากทุกเพศทุกวัย 14-18
การศึกษาเปิดกว้างแด่สาธารณะชน เช่น โรงเรียนหลักสูตร, เงินทุน, การสอนการจ้างงานและนโยบายอื่น ๆ โดยจัดตั้งผ่านทาง การเลือกตั้งในท้องถิ่น – บอร์ดโรงเรียนที่มีอำนาจเหนือ โรงเรียนในระดับเขต โรงเรียนมักจะแยกออกจากการปกครองท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่เป็นอิสระรวมถึงการจัดการงบประมาณที่เป็นอิสระ มาตรฐานการศึกษาและการทดสอบระดับมาตรฐานการศึกษาจะทำโดยรัฐบาลกลางของสหรัฐ
แหล่งอ้างอิง
การศึกษาอเมริกา  http://www.studysqr.com/usa-education-system/ ‎



รับทำวีซ่า
บริษัท สทัดดีสแควร์ จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน รับทำวีซ่าอเมริกา ท่องเที่ยว และวีซ่านักเรียน ประสบการณ์การยื่นขอวีซ่ามากกว่า 10 ปีเป็นเครื่องการันตี ให้คำปรึกษาที่ถูกต้องตรงตามความต้องการของสถานทูตแต่ละประเทศ เราเชี่ยวชาญการขอวีซ่าในทุกประเทศ รวมทั้งออกแบบแผนการขอเดินทางเพื่อขอวีซ่าได้อย่างถูกต้อง เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน รับทำวีซ่าอเมริกา โดยตรวจสอบเอกสารเพื่อให้แน่ใจว่าท่านจะไม่มีปัญหาเรื่องทำวีซ่าของท่าน กรอกแบบฟอร์มอย่างถูกต้องสมบูรณ์ จัดการจองตั๋วเครื่องบิน ช่วยท่านซื้อประกันการเดินทาง จองคิวนัดสัมภาษ ช่วยท่านเตรียมตัวเข้ารับสัมภาษวีซ่ากับทางสถานทูต ช่วยสร้างความมั่นใจว่าแผนการท่องเที่ยวของท่านจะไม่มีอุปสรรค์จากการยื่นขอวีซ่า
แหล่งอ้างอิง
รับทำวีซ่า : http://www.studysqr.com/วีซ่า/รับทำวีซ่า/รับทำวีซ่าอเมริกา/

วีซ่าอเมริกา
สำหรับพลเมืองของต่างประเทศที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาในครั้งแรก จะต้องได้รับวีซ่าทั้งชนิดวีซ่าชั่วคราวสำหรับการเข้าพักชั่วคราวหรือวีซ่าพำนักถาวร พลเมืองที่ได้รับการรับรองจากทางรัฐบาลอาจจะได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศอเมริกา สำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะมาถึงสหรัฐอเมริกาภายใต้โครงการยกเว้นวีซ่าจะต้องได้รับการอนุมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเดินทางการอนุญาต (ESTA) ก่อนเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้มีคุณสมบัติสำหรับโครงการยกเว้นวีซ่า หรือบุคคลที่ต้องการเดินทางไปอเมริกาเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อการเรียนต่อ หรือบุคคลที่ต้องการทำงานในโครงการแลกเปลี่ยน จะต้องขอวีซ่าชนิด B เพื่อการเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา การที่ท่านได้รับวีซ่าจากสถานกงศุลอเมริกาเรียบร้อยแล้ว จะยังไม่ได้รับประกันว่าท่านจะสามารถเดินทางเข้าประเทศอเมริกาได้ วีซ่าเพียบแสดงให้เห็นกับทางเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐในประเทศนั้น ๆ ที่กำหนดว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะใช้วีซ่าสำหรับการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะด้านที่ท่านแสดง ท่านจะต้องถูกตรวจสอบอีกครั้ง จากเจ้าเจ้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (Department of Home Land) และทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะทำหน้าที่กำหนดระยะเวลาที่ท่านสามารถพำนักอาศัยอยู่ใน สหรับอเมริกาอีกที
แหล่งอ้างอิง
วีซ่าอเมริกา : http://www.studysqr.com/วีซ่า/วีซ่าอเมริกา/

เรียนต่ออเมริกา
มีนักเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น หลาย ๆ คนมีเป้าหมายการเรียนต่ออเมริกา เป็นลำดับแรก อเมริกาเป็นสถานที่ที่พวกเขาต้องการที่จะเพิ่มประสบการณ์ของพวกเขาและยกระดับความรู้ของพวกเขาให้สูงยิ่งขึ้น สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่นิยมมากที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เรามาค้นหาคำตอบว่าทำไมนักเรียนต่างชาติจำนวนมากเลือกที่จะเรียนต่ออเมริกาใน สถาบันสอนภาษา วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา
แหล่งอ้างอิง : http://www.studysqr.com/เรียนต่อ/เรียนต่ออเมริกา/


Study Square Co.,Ltd. 5 Therd Rachan 1 Lane, Therd Rachan Rd, Srikan, Donmuang, Bangkok, 10210 ThailandTell : 089-1261024, 02-9291231 (พี่กฤต)Email :studysquares@hotmail.com